กลายเป็นปัญหาใหญ่ของอังกฤษเลยก็ว่าได้ เมื่ออุตสาหกรรมรีไซเคิลสหราชอาณาจักรออกมาระบุว่า “ยังไม่รู้ว่าจะรับมือกับการที่จีนห้ามนำเข้าขยะพลาสติกได้อย่างไร”
ซึ่งโดยปกติแล้ว สหรัฐอาณาจักรจะส่งออกขยะพลาสติกไปรีไซเคิลที่จีนปีละกว่า 500,000 ตัน แต่ขณะนี้การค้าขยะพลาสติกดังกล่าวต้องยุติลง หลังจากจีนประกาศห้ามนำเข้าขยะพลาสติก
สมาคมรีไซเคิลสหราชอาณาจักรระบุว่า จากประกาศดังกล่าวของจีน ทำให้ขณะนี้สหราชอาณาจักรไม่สามารถจัดการกับของเสียจำนวนมากนี้ได้
ไซมอน เอลลิน นายกสมาคมฯ กล่าวกับบีบีซีว่า ตนยังคิดไม่ออกเหมือนกันว่าในระยะสั้นจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
“นี่เป็นระเบิดลูกใหญ่สำหรับเรา เกมนี้มันเปลี่ยนอุตสาหกรรมของเราไปเลย เพราะเราพึ่งพาประเทศจีนมาเป็นเวลานานในการรีไซเคิลของเสียของเราที่ราว 55% เป็นกระดาษ และอีกกว่า 25% เป็นพลาสติก” นายเอลลินกล่าว และว่า เราไม่เคยมีตลาดรองรับในสหราชอาณาจักรมาก่อน นี่จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมเรา
ไมเคิล โกฟ เลขาธิการด้านสิ่งแวดล้อม ยอมรับว่า เขาช้าเกินไปที่จะเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น
ขณที่องค์กร Recoup ในอังกฤษ ซึ่งรีไซเคิลพลาสติก กล่าวว่า การห้ามนำเข้าดังกล่าวของจีนจะนำไปสู่การสะสมของเศษขยะพลาสติกของอังกฤษ ทำให้อาจต้องเปลี่ยนไปสู่การเผาขยะและการฝังกลบแทนการรีไซเคิล
ปีเตอร์ เฟลมมิง จากสมาคมรัฐบาลท้องถิ่น ระบุว่า จากปัญหาดังกล่าวเห็นได้ชัดว่าบางเมืองอาจต้องแก้ปัญหาด้วยการนำขยะไปเผา แต่ไม่ใช่ว่าทุกส่วนของประเทศจะมีเตาเผาขยะ
“นี่ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ แต่ก็คงจะในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น เพราะเชื่อว่าเราจะสามารถรับมือได้ และในระยะยาว เราคงจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ในการกำจัดของเสียที่ชาญฉลาดมากขึ้น” นายเฟลมมิงกล่าว
ฟังจากหลายเสียงอาจดูเหมือนว่าแนวทางแก้ปัญหาตอนนี้จะมุ่งไปสู่การเผาขยะ อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงต้านทานอย่างรุนแรงจากกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
การเผาเป็นคำตอบที่ผิด
หลุยส์ เอดจ์ จากกรีนพีซ กล่าวกับบีบีซีว่า การเผาเป็นการแก้ปัญหาที่ผิดพลาด เพราะทำให้เกิดคาร์บอนที่ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ในปริมาณสูง นอกจากนี้ยังสร้างสารเคมีที่เป็นพิษและโลหะหนักด้วย
“หากคุณสร้างเตาเผาขยะ ก็ถือเป็นการสร้างตลาดสำหรับพลาสติกใช้ครั้งเดียว (single-use plastics) ไปอีก 20 ปีข้างหน้าเลย แต่พลาสติกดังกล่าวเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องลดการใช้งานในขณะนี้” หลุยส์ เอดจ์ กล่าว
โดยรัฐบาลควรกำลังหารือกับภาคอุตสาหกรรมในการเก็บภาษีผลิตภัณฑ์พลาสติกใช้ครั้งเดียว รวมไปถึงโครงการเงินฝากขวดน้ำด้วย
ลดการใช้-ลดความซับซ้อน
ไมเคิล โกฟ กล่าวกับบีบีซีว่า เป้าหมายระยะยาวของเขาคือการลดปริมาณพลาสติกในระบบเศรษฐกิจโดยรวม, ลดจำนวนพลาสติกที่แตกต่างกัน, ลดความซับซ้อนของกฎหมายท้องถิ่น เพื่อให้ผู้คนสามารถตัดสินสิ่งที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ นี่คือสิ่งที่อังกฤษจะต้องทำ
คณะกรรมการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า อังกฤษควรจะเริ่มขยายมาตรการภาษีบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ยากต่อการรีไซเคิลมาก ที่สุด ให้เสียภาษีแพงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวยังเป็นเพียงข้อตกลงกว้างๆ เท่านั้น ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนถึงเป้าหมายในระยะยาว หรือแม้แต่ระยะสั้นที่จะแก้วิกฤตจีนนี้อย่างไร…
ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ
ประกาศซื้อ-ขายขยะรีไซเคิลทุกชนิด ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกที่นี่