เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่า มีสองแม่ลูกที่จ.สุราษฎร์ธานี ฐานะยากจนมีอาชีพเก็บขยะหาเงินให้ลูกที่เป็นเด็กพิเศษไปโรงเรียน ความเป็นอยู่ลำบาก วอนให้หน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องช่วยเหลือ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เพิงพักที่ถูกต่อเติมหลังอู่ซ่อมรถ เลขที่ 67 ม.4 (กม.32) ต.ถ้ำสิงขร อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พบนางจุรีย์ รักสกุล อายุ 54 ปี และน้องนนท์ อายุ 11 ปี เด็กพิเศษ (ออทิสติก) นักเรียนร.ร.บ้านท่าม่วง (ศูนย์เด็กพิเศษ) ต.บางมะเดื่อ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี อาศัยในบ้านหลังดังกล่าวที่สภาพทรุดโทรม สร้างให้โดยกลุ่มบิ๊กไบก์จิตอาสา บนที่ดินของผู้ใจบุญ ซึ่งในทุกวันเปิดเรียนนางจุรีย์ จะพาน้องนนท์ลูกชาย เดินเท้าเปล่าไปโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือระยะทางไกลกว่า 7 กิโลเมตร
ก่อนที่จะหาของเก่าและเก็บขยะริมถนนสายสุราษฎร์-ตะกั่วป่า และเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนก็เดินไปรับลูกชายกลับบ้าน โดยมีรายได้เฉลี่ยวันละ 50 บาท พร้อมรับจ้างทั่วไปเท่าที่พอจะทำได้ เนื่องจากนางจุรีย์ประสบอุบัติเหตุ ขวดแก้วบาดทำให้เอ็นข้อเท้าขวาขาด นอกจากนั้นหากถึงวันหมอนัดน้องนนท์ไปรับยาที่โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ หากพอมีเงินก็จะนั่งรถโดยสารบ้าง แต่ส่วนใหญ่ไม่มี 2 แม่ลูกจะเดินไปกลับ รวมระยะทางมากกว่า 60 กิโลเมตร และเสาร์อาทิตย์ก็พากันเดินหาของเก่าและเก็บขยะเพื่อนำมาคัดแยก ขายเป็นรายได้เลี้ยงชีพ
นางจุรีย์ กล่าวว่า ตนเองและลูกชายโชคดีที่ผู้ใจบุญให้ใช้พื้นที่ให้สร้างที่พักสำหรับอาศัยได้ โดยมีรายได้จากการเก็บขยะและของเก่าขาย วันละ 50 บาท ถึงแม้จะใช้ชีวิตด้วยความลำบาก และน้องนนท์มีเงินคนพิการ เดือนละ 800 บาท แต่ไม่เคยนำเงินดังกล่าวออกมาใช้ อยากเก็บไว้ให้ลูกชาย หากตนเป็นอะไรไปก่อน อย่างน้อยน้องนนท์ก็มีเงินอยู่บ้าง และทุกวันนี้มีน้องนนท์ ลูกชายเป็นกำลังใจสำคัญ
“อยากได้รถเข็นรุนคันใหม่ที่ใหญ่และสูงกว่าเดิม เพื่อจะได้เก็บของเก่าได้มากขึ้น จะได้มีเงินใช้หนี้ร้านขายของชำที่ยังติดค้างอีก 1 หมื่นบาท หลังจากเอ็นขาดรักษาไม่สามารถทำมาหากินได้ก่อนนี้เป็นหนี้ถึง 2 หมื่นแต่ชดใช้มาเกินครึ่งแล้ว” นางจุรีย์ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ใจบุญสามารถโอนเงินช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวได้ที่บัญชี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบช. นางจุรีย์ รักสกุล เลขที่บัญชี 020069927394
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์
